ฟ้าครึ้มๆ ฝนมันก็ตก ....
เปิดเทอมทีไร ฝนตกทุกปี ... กระดาษที่มีในเครื่องก็ชื้นได้ใจ กระดาษค้างคืนยิ่งแล้วใหญ่ เปิดร้านทีไร ต้องย้ายไปใส่เครื่องปรินท์ให้หมด
กระดาษชื้นยังไม่เท่าไร แกะห่อใช้ไม่หมด ข้ามคืนก็ย้ายไปใส่ IR3530 IR3300 ได้ไม่มีปัญหา แต่หากปิดเครื่องไม่ใช้งานนานๆ จนลูกดรัมชื้นนี่สิ ภาพจะซีดจะเบรอไปซะหมด แม้จะเสียบปลั๊กทิ้งไว้แล้วก็ตาม หากไม่ได้ใช้งานหลายๆ วัน มันก็มีโอกาสชื้นได้
จากอดีตเคยประสบปัญหาช่วงหน้าฝน เช้าๆ ถ่ายมาซีดๆ จางๆ รันงานไปนานๆ ก็หายไป เข้มดังเดิม เหมือนเครื่องยังไม่ทันร้อน ... นายช่างผู้รู้ใจ แอบบอกมาว่า นอกจากต้องเสียบปลั๊กทิ้งไว้ตลอดแล้ว ต้องเปิดสวิทซ์อุ่นลูกดรัมไว้ด้วย บางทีเครื่องที่ได้มาใหม่ ช่างเค้าปิดเอาไว้ ซึ่งก็ไ่ม่รู้ว่ามีไว้ทำกะโหลกกะลาอะไร เสียบปลั๊กแล้วให้มันอุ่นดรัมเองตลอดไม่ดีกว่ารึ ... เรื่องนี้ต้องถึงครูอังคณาแน่
เพียงเปิดฝาหลังมา จะเจอสวิทซ์เล็กๆ ข้างๆ สายเสียบฟินิชเชอร์ มันปิดไว้ สงสัยเหมือนกันว่าเพราะเหตุใดจึงทำสวิทซ์นี้ขึ้นมา อาจจะประหยัดพลังงาน หรือป้องกันระบบไฟในเครื่องหลังปิดเครื่องไม่ใช้งาน ป้องกันดรัม หรือ ฯลฯ .... ขี้เกียจเดา แต่เอาเป็นว่า เราใช้ทุกวัน เปิดทิ้งไว้ดีกว่า ยิ่งถ้าต้องปิดร้านหลายๆ วัน เสียบปลั๊กอย่างเดียวไม่พอ อย่าลืมเปิดสวิทซ์อุ่นดรัมทิ้งไว้ด้วย กลับมาใช้งานใหม่ จะได้เจ๋งแจ๋วเหมือนเดิม
ขนาดเปิดสวิทช์อุ่นดรัมแล้ว ก็ยังชื้นเลย ขนาดเสียบปลั๊ก ทิ้วไว้ด้วย แค่ไม่ได้ใช้งานแค่วันเดียวเอง
ตอบลบที่ร้านผมอยู่ติดดอย .. ฤดูฝนเยี่ยงนี้ เจอปัญหาชื้นสั่งสมเลยเหมือนกันครับ .. แกะห่อยัดเครื่องได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง 5 - 10 ใบแรกที่ถ่าย งอเป็นคลื่นลมในทะเลเลยครับ .. เลยแก้ปัญหา ถ้าลูกค้าขาดช่วงไปนานๆ พอจะกลับมาถ่ายอีกที ก็กลับกระดาษเอา เอาตรงกลางมาถ่ายก่อน ... เพราะทั้งส่วนบน และส่วนล่างที่ติดกับถาดเหล็ก มันชื้นจนงอเห็นรอยเหล็กในถาดเลยครับ .. เฮ้ออออ ... สงสัยสวิทซ์นี้มันอุ่นแต่ดรัม แต่ไม่ได้อุ่นกระดาษให้อ่ะเนอะ ..
ลบ