ได้เวลาเปลี่ยนสปองค์ – ลูกยาง ทางขึ้น IR600

 “You wouldn’t know about life if it is too easy” ถ้าชีวิตมันง่ายเกินไป แล้วเราจะไปรู้จักชีวิตได้อย่างไร ทุกอย่างย่อมมีอุปสรรคปัญหา แต่ทุกอย่างเอง ก็ล้วนมีทางออกของตัวเอง มันคือกลไกของชีวิต เฉกเช่นปัญหากระดาษติดทางขึ้นเครื่องถ่ายเอกสาร หากจะไปนั่งบนบานศาลกล่าว จุดธูปไหว้เจ้าที่ โทษคนโน้นคนนี้ไปเรื่อย ปัญหาก็ไม่ถูกแก้ เอาเป็นว่าจับไขควงขึ้นมาแน่นอนกว่า

เปิดฝาข้างมาได้ แกะสปองค์ออกมาดูก่อน ถ้าจำไม่ได้ว่าครั้งสุดท้ายถอดมาเมื่อไร ก็เปลี่ยนซะ มันคืออะไหล่หมุนเวียน ถอดน็อตสองตัวแกะฝาครอบเหล็ก เอาแผ่นพลาสติกทางขึ้นออก แกะอีกสองตัวสปองค์ก็หลุดออกมา โดยทั่วไปมักจะทำได้กันอยู่แล้ว แต่ถ้ายังไม่หนำใจ ก็แกะฝาครอบสายชุด Unit 1 ออก แกะน็อตอีกสองตัวซ้ายขวา ดึงชุดสายไฟออก แล้วค่อยๆ บรรจงยกชุด Unit 1 ออกมาพิจารณาให้ถ่องแท้อีกที ว่าลูกยางทั้ง 4 ลูก ยังมีดอกยางให้ตะกายกระดาษอยู่หรือไม่ ถ้าลื่นโล้นไปแล้ว ก็ถอดน้องกิ๊บออก ลากลูกยางใหม่มาเปลี่ยนให้ดูดี

ลูกยาง 2 ลูกใหญ่ที่แนบกับสปองค์ มีอยู่หลากหลายรุ่น ทั้งดอกยางสิบล้อ ฟันซี่ถี่ หรือดอกยางขรุขระ นายช่างใหญ่แนะนำว่าดอกสิบล้อ น่าจะดีที่สุด เพราะการสึกหรอน้อยกว่า ขุยกระดาษเองก็จะถูกบ้วนออกข้างๆ ตามธรรมชาติของมัน ส่วนลูกเล็กอีกสองลูก ลายขรุขระเป็นที่นิยม เพราะเห็นมีอยู่ลายเดียว แต่ตอนใส่ดูลายฟันขรุขระให้ดีๆ มันต้องทำหน้าที่ตบกระดาษส่งไปให้ลูกยางสิบล้อและสปองค์ ซึ่งควรไปในทิศทางที่กวักกระดาษ ไม่ใช่ลูบกระดาษ

ที่ว่าต้องระวังชุด Unit 1 ที่ถอดออกมา ก็เพราะชุดนี้เป็นโครงพลาสติก ซึ่งมีโอกาสแตกหักง่าย และหาอะไหล่ได้ยากนัก ยิ่งเป็น IR600 โดยมากจะผ่านการโมดิฟายกันมาแล้ว ถ้าโครงชุดนี้แตกก็จบข่าว กาวช้างหรือกาวปืนก็ช่วยไม่ได้ เพราะชุดคลัชขับเคลื่อนชุดนี้แรง หากคลัชฝืดลูกปืนตาย โอกาสแตกก็สูง คราวนี้เอากาวแนวแล้วใช้ใส้แม็กกับหัวแร้งโมดิฟายอย่างเดียว ไม่งั้นเอาไม่อยู่ ถ้าแตกแล้วแตกอีกก็คงต้องพึ่ง Paper Deck อย่างเดียว

ทั้งนี้อาการกระดาษติดทางขึ้นอาจไม่ได้เกิดจากชุดสปองค์-ลูกยางเพียงอย่างเดียว ควรตรวจสอบชุดขับเคลื่อนทั้งหลาย ไล่ตั้งแต่ชุดคลัช ชุดลูกปืน One way ไปจนถึง Main Motor ที่ซ่อนอยู่ข้างหลังชุดไฮโวลท์ บางทีบางชุดที่ไม่ค่อยได้ใช้ เช่นชุด Bypass ไม่ค่อยได้ใช้ ไปถ่ายปกเครื่องเล็กกันเพราะลูกดรัมสวยกว่า ลูกปืน Bypass อาจตาย Main Motor ก็ทำงานหนัก ถ้ามันฝืด มันก็ฝืดทั้งเครื่อง กระดาษทั้งเครื่องเดินไม่สะดวก ก็หลงมาโทษชุด Unit 1 เพราะถ้ามันฝืด มันก็ติดตั้งแต่ต้นทางนั่นแหละ

กลไกของเครื่องก็เหมือนกลไกตลาด จะมาโทษคนนู้นคนนี้ทำเสียราคา ก็คงไม่ได้ ลูกปืนตายหนึ่งตัว เครื่องก็ฝืดทั้งเครื่อง จะมาเปลี่ยนลูกยางหรือลูกปืนตัวสองตัว ให้เครื่องวิ่งเนี๊ยบทั้งเครื่องเหมือนโอเวอร์ฮอร์น ก็คงไม่ได้ ยิ่งคิดจะโอเวอร์ฮอร์นกลไกตลาดทั้งหมด ตอบได้ว่ายากครับ ลองวกกลับมาคิดหาวิธี เพิ่มคุณภาพ แต่ลดต้นทุนได้หรือไม่ นั่นคือโจทก์ที่ต้องแก้ อาทิ ถ้าชุด Unit 1 พัง ผมก็ไปหา Paper deck มาใส่ กระดาษวิ่งตรงกว่าเร็วกว่า ใส่กระดาษหนาได้เต็มที่ จะมานั่งโทษบริษัทว่าทำไมไม่ทำ Unit 1 เป็นโครงเหล็ก ก็คงไม่ได้

ถ้าคิดว่าต้นทุนถ่ายเอกสารสูง ก็ลองวิ่งไปถามราคาค่าถ่ายเพลท (เพลทเกรนก็พอ คงไม่มีใครถ่ายเอกสารทีละหมื่นเล่ม) ค่าวิ่งยกละเท่าไร เก็บพับตัดเจียนเท่าไร ไสกาวเท่าไร ฯลฯ ... โลกไปถึงไหนกันแล้ว มานั่งโทษลมโทษฝน โทษนู่นโทษนี่ ปฏิเสธงานกันเข้าไป ดีครับ ขึ้นราคากันให้หมด ลูกค้าผมจะได้สบาย ได้งานคุณภาพในราคาถูก โดยเฉพาะลูกค้าองค์กรที่ไม่มุ่งแสวงหาผลกำไร เค้าจะได้เอางบประมาณไปอุดหนุนส่วนอื่น เราก็พลอยได้บุญไปด้วย เห็นเด็กๆ ได้หนังสือเรียนดีๆ มีคุณภาพ ราคาถูก แล้วก็รู้สึกดี ... ปล. เฉพาะงานจำนวนนะครับ