ลุงพลาดไปแล้ว ลุงลืมถอด X5230 โชว์โค๊ด 005-122, 005-123, 005-196, 005-199

คลุกคลีในวงการกระดาษเปื้อนหมึกมานมนาน ตั้งแต่เมื่อครั้งโดนเลย์ออฟ ช่วงวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 จากชีวิตนักข่าว นั่งเฝ้าดมกลิ่นหมึกออฟเซ็ตในสำนักพิมพ์ ต้องดิ้นมาถอยคอมพิวเตอร์ ออกมารับพิมพ์รายงาน วิทยานิพนธ์ ปรินท์งานเข้าเล่มให้น้องๆ นักศึกษา หาประทังชีวิต

ผ่านไปหลายปี แม้จะได้งานใหม่แล้ว เงินเดือนก็ยังไม่พอกิน เพื่อนเลยชวนหุ้นกันทำร้านถ่ายเอกสาร หารายได้เสริมหลังเลิกงาน ก็เลยได้เข้าสู่วงการฯ อย่างเต็มตัว ยุคนั้นเครื่องถ่ายฯ มีบทบาทสำคัญกับนักศึกษามาก หลายคนเรียนจบ กลับมารับปริญญา ก็มักจะหา Content ถ่ายรูปกับเครื่องถ่ายเอกสาร เอาฮากันไป

ต้นฉบับตำรา ถ้าเป็นเล่ม หรือ Lecture ต้องยืนกดบนกระจก ส่วน Lecture ลายมือสวยๆ หรือ Sheet ที่อาจารย์แจก มี Short Note จากเพื่อนที่เรียนเก่งๆ จะเป็นที่ต้องการ และต้นฉบับมักจะมาเป็น Sheet ก็ต้องพึ่งหัวฟีด ช่วยป้อนต้นฉบับลงชุดสแกน Xerox เรียก DADF ย่อมาจาก Duplex Automatic Document Feeder 

คอร์ดกีตาร์ เพลงดาว มช.

ห่างไกลยิ่งกว่าสุดห้วงจักรวาล ก็เห็นจะเป็นอดีตกาลที่ผ่านมา ชีวิตที่ผ่านไปในรั้วสีม่วง พาเราไปพบพานหลายสิ่งอย่างมากมาย แต่จะมีอยู่อย่างน้อยสองเรื่อง ที่ไม่เคยได้เฉียดกรายเข้าใกล้

อดีตที่ว่าแสนไกลกว่าขอบจักรวาล ไม่เคยมีผู้ใดได้รับโอกาสเดินทางไปถึง อาจจะใกล้กว่าเรื่องที่เราไม่เคยได้สัมผัส ตลอดระยะเวลาที่อ่านเขียนร่ำเรียน อยู่ในร่มแดนช้างชูคบเพลิง เรายอมแพ้อยู่สองอย่าง

อย่างแรกคือรางวัลเรียนดี แม้เกรดที่เรียนจบออกมาจะไม่ได้ขี้เหร่นัก แต่เกียรตินิยมเหรียญทอง ก็ช่างห่างไกลกับตัวเลขที่ระบุในทรานสคริปต์

ส่วนอีกเรื่อง ที่ห่างไกลไม่แพ้กัน ก็เห็นจะเป็นตำแหน่ง "ดาว" หรือ "เดือน" ไม่ว่าจะเป็นระดับไหน .

แค่ดาวเด่นในกลุ่มเพื่อน กลุ่มเล็กๆ เราก็น่าจะห่างไกลประมาณยาน Yoyager ที่ขอบดาราจักร ส่วนดาวเดือน Major คณะ หรือระดับมหาวิทยาลัย คาดว่าน่าจะไกลกว่า Event Horizon ขอบฟ้าเหตุการณ์ หรือกาลเวลาในหลุมดำ อาจต้องชิดซ้ายไปเลย

คอร์ดกีตาร์ เพลงมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ "ร่มแดนช้าง"

 

ริ้วเลื่อมพรายสายนที รินไหลปรี่ล้นอ่างแก้วแวววาว พรายพราวอยู่คู่เคียง ร่มแดนช้างชูคบเพลิงมากว่า 60 ปี

รอบวารีนี้ยิ่งพิศยิ่งเพลินตา ครั้นเวลาคิดถึงสถาบันมาตุภูมิคราใด ก็คว้ากีตาร์คู่ใจ มาดีดเสียงตีสาย ให้เป็นเพลงมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แต่จนแล้วจนรอด ก็หาคอร์ดไม่เจอสักที

ลองสอบถามไปทางอากู๋ เปิดค้นหาดูก็แล้ว ในที่สุดก็พบเจอแต่คำขวัญประจำมหาวิทยาลัย อตฺตานํ ทมยนฺติ ปณฺฑิตา” อันหมายว่า บัณฑิตทั้งหลายย่อมฝึกตน

หาคอร์ดไม่เจอ ก็เลยต้องฝึกตน ดำลงงมค้นหาเอาเอง หากผิดเพี้ยนประการใด ก็ขอน้อมรับคำติชม

หากงามพร้อมสมภูมิลำเนา ที่พวกเราแสนภูมิใจ ลูกช้าง Mass Comm 35 ก็ขอเทิดทูนไว้ ด้วยดวงใจ พร้อมเพรียงบูชา

18 And Life ช่วงวัยคะนอง ที่อาจหลอกหลอนคุณไปชั่วชีวิต จาก Skid Row

“18 And Life” เป็นเพลงช้าสไตล์บัลลาดที่บาดใจ จาก Skid Row วงดนตรีแนว Heavy Metal สัญชาติอเมริกัน แต่เนื้อหาของเพลง ดันไม่ใช่เรื่องอกหักรักคุด ทว่าเป็นเรื่องชีวิตสุดย่ำแย่ของ “Ricky” เด็กหนุ่มวัย 18 ปี ที่มีตัวตนจริงๆ ไม่ใช่แค่เอาชื่อมาประดับเพลงเหมือน Sally ของวง OASIS

เพลง “18 And Life” อยู่ในอัลบั้มแรกของวง Skid Row ชื่ออัลบั้มเดียวกันกับชื่อวง ออกวางแผงในปี 2532 ยุค Hair Band เบ่งบาน ยุคนั้นวัยรุ่นชายค่อนโลกอยากไว้ผมยาว แม้หน้าตาจะไม่หล่อเร้าใจเหมือน Sebastian Bach นักร้องนำวง Skid Row

แล้ว Sally ก็ดังไม่รอ OASIS กับ Don’t Look Back In Anger

‘Don’t Look Back In Anger’ เป็นเพลงโปรโมท จากอัลบั้ม ‘(What’s The Story) Morning Glory?’ ของวง “Oasis” วงร็อกชื่อดังจากเมือง Manchester สหราชอาณาจักร ออกวางแผงในปี 2538

Oasis เป็น Rock แนว “Brit Pop” ผสมผสานระหว่าง Pop Rock กับ Alternative Rock ซึ่งได้รับความนิยมในยุค 1990 ต่อจาก Indy Pop ในยุค 1980 Punk Rock ในยุค 1970 และ เพลง Pop ในยุค 1960

‘Don’t Look Back In Anger’ โด่งดังเป็นพลุแตกกับ ท่อนฮุคทองคำ "So Sally can wait, she knows it's too late..." เป็นคำถามให้ขาร็อกทั่วโลก ค้นหาว่า Sally คือใคร?

All apologies จดหมายฉบับสุดท้าย จากชายชื่อ Kurt Cobain

"All Apologies" เป็นผลงานของ Kurt Cobain นักร้องนำและมือกีตาร์ วง Nirvana ที่แต่งเพลงนี้ขึ้น เพื่อมอบให้ภรรยาและลูกสาว เป็นนัยว่า ขอโทษสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง 

What else should I be? .. All apologies..

ไม่ว่าควรจะเป็นอะไร พูดอะไร เขียนอะไร ยังไงก็ขอโทษ ทุกสิ่งอย่าง

ปิดท้ายเศร้าๆ กับท่อนจบ All in all is all we are .. ทุกสิ่งทุกอย่าง คือสิ่งที่เราเป็นไป All Apologies จึงคล้ายจะเป็น จดหมายลา ฉบับสุดท้ายจาก Kurt Cobain

การสื่อสารผิดพลาด X5230 ส่งโค๊ดตามไปเบ่ง 047-213, 047-214, 047-215, 047-216, 047-218

หนึ่งในวิธีทดสอบว่าใครเป็นคนดีจริงหรือไม่ คือการลองเปิดโอกาสให้คนนั้น ทำชั่วดูสักครั้ง แล้วดูว่าจะกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีได้ไหม เวลาซื้อเลือกเครื่องถ่ายเอกสารก็เช่นกัน อยากรู้ว่าจ้าวไหนดีจริง ก็ต้องลองให้เครื่องนั้น เสียสักครั้ง แล้วเปิดโอกาสให้คนขายลองเคลมดู ว่าจะซ่อมให้แบบไหน แบบคนดี หรือคนเลว แบบจริงใจ หรือแล้งน้ำใจ

ช่างที่อยู่ไกลมักซ่อมออนไลน์ ยิ่งวัดใจกันง่าย ว่าช่างจะมีเสน่ห์ในการสื่อสารเพียงใด ช่างบางคนซ่อมแบบเหมาเข่ง วิเคราะห์อาการมั่วๆ เอะอะก็ให้แกะอะไหล่เปลี่ยนอย่างเดียว ส่งอะไหล่ไปมา เสียทั้งแรง เสียทั้งเวลา ค่าใช้จ่ายบานปลาย ก่อนขายเครื่องก็พูดจาดีมีหลักการ พอเครื่องพัง วางมาดเข้มออกคำสั่ง อยากหายต้องเชื่อฟังช่างนะเด็กดี