วิธีเข้าเล่มมหาอมตะนิรันดร์กาล หุ้มสัน อัดกาว ถ่ายปก ทำสัน เคลือบปก (ตอนอวสาน)


การเข้าเล่มหุ้มสันอัดกาว มิใช่เรื่องใหม่ แต่ละร้านก็จะมีเทคนิควิธีการต่างๆ นาๆ กันไป ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้าในแต่ละพื้นที่ โดยรูปแบบที่จะนำเสนอนี้ คือการเข้าเล่มหุ้มสันอัดกาวที่ทำเป็นประจำที่ร้านสลิลสไมล์ และบ่อยครั้งก็รู้สึกดีใจที่ผลงานที่ส่งมอบให้ลูกค้าเมื่อหลายๆ ปีที่ผ่านมา ลูกค้านำไปใช้งานมานานแล้ว และนำกลับมาถ่ายเพิ่ม พลิกไปมาก็จำได้ว่าถ่ายเอกสาร และเข้าเล่มที่นี่ แม้เวลาผ่านไปหลายปี ยังพิสูจน์ได้ว่า งานยังสวยงามและทนทานไม่แพ้การเข้าเล่มหุ้มสันอัดกาวของร้านอื่น


 เริ่มจากจัดการถ่ายเอกสารไส้ในหนังสือให้เรียบร้อย จัดการเย็บแม็ก ทุบแม็กให้เนียนเรียบ ถ้าหนามากก็จัดการใช้สว่านเจาะแล้วร้อยเชือก ต่อจากนั้นไส้ในจะถูกนำไปเจียนด้านข้างให้เรียบ เพื่อเนื้อปกจะได้ถูกผนึกกับบริเวณสันอย่างแน่นหนา ดังที่กล่าวมาแล้วในตอนก่อนหน้านี้ว่า ปกจะเตรียมได้หลังจากมีไส้ในที่อยู่ในสภาพพร้อมเข้าเล่ม เพราะแต่ละเล่ม แต่ละสำนักพิมพ์ แม้จะใช้กระดาษมีน้ำหนักแกรมเท่ากัน แต่เมื่อนำมาถ่ายเอกสาร ความหนาอาจไม่เท่ากับต้นฉบับ ทำให้ยากต่อการวัด เพื่อทำสัน


การทำสันหนังสือก็ถ่ายเอกสาร ทั้งปกและสันออกมาอย่างละ 1 ใบ การถ่ายสันหนังสือก็ใช้วิธีบ้านๆ วางไว้กลาง A4 แล้วเอากระดาษขาวปิดซ้ายขวา หากต้นฉบับเป็นปกสี ตัวหนังสือเจาะขาว ก็ตั้งเครื่องเป็น Negative ถ้ามีภาพด้วยก็ถ่ายมา 2 ใบ Negative 1 ใบ Positive 1 ใบ แล้วตัดมาแปะแทนรูป Negative เพื่อรูปจะได้เหมือนต้นฉบับ ส่วนตัวหนังสือที่เจาะขาว ก็จะกลายเป็นสีดำ งานจะออกมาสะอาดกว่า หลังจากนั้นก็ทำการวัดสัน เมื่อได้ความหนาแล้วก็นำมาต่อกับปก กะให้ตัวหนังสือของสันอยู่ตรงกึ่งกลาง จะใช้วิธีทาบ หรือพับ หรือวัด ก็แล้วแต่


ตกแต่งให้สวยงาม อะไรที่ไม่ต้องการก็ใช้ลิขวิดเปเปอร์ทาทับ อะไรที่ขาดเหลือไป ก็ใช้ปากกาดำค่อยๆ เติม เสร็จแล้วก็นำไปถ่ายปกลงกระดาษ A3+ ตั้งค่าเป็น Free Size ตั้งค่ากระดาษเป็น Bond เสร็จแล้วก็นำไปเคลือบ วิธีเคลือบก็ใช้สติ๊กเกอร์ใส มีให้เลือกทั้งแบบหลังขาว และหลังเหลือง ขนาดแผ่นใหญ่จะประมาณ 42 X 28 นิ้ว สั่งให้เค้าตัด 4 ก็จะได้ความกว้างยาวประมาณ 21 X 14 นิ้ว สามารถเคลือบปก A3+ ได้เต็มแผ่น เหลือเศษด้านข้างที่เกินมา ตัดเก็บไว้ใช้งานได้ หลายปีมาแล้วที่ทางร้านไม่เคยซื้อสก็อตเทป หรือเทปกาวในการหุ้มห่อบรรจุภัณฑ์เลยแม้แต่น้อย


วิธีเคลือบก็ดึงสติ๊กเกอร์ออกมาประมาณ 1 เซนติเมตร ทาบลงไปกับพื้น วางขอบปกด้านขวาไว้ห่างจากขอบสติ๊กเกอร์ที่แกะประมาณ 1 นิ้วเช่นกัน กะให้อยู่กลางแผ่นสติ๊กเกอร์ใส แล้วใช้ผ้าลูบให้เรียบ เหมือนกระดุมเม็ดแรก ถ้ามีท่าทีว่าจะย่น หรือเบี้ยว ก็จัดการดึงออก จัดใหม่ให้เรียบร้อย และหลังจากลูบมาประมาณ 1 นิ้ว แน่ใจแล้วว่าถ้าลูบต่อไปจะไม่ย่นก็จัดการ ลูบไปบนปก ไล่ไปเรื่อยๆ จนหมดแผ่นปก เสร็จแล้วก็ดึงสติ๊กเกอร์ขึ้นมา นำไปตัดสติ๊กเกอร์ส่วนที่เลยปกทั้ง 4 ด้าน เก็บไว้ใช้งานต่อไป



คราวนี้มาถึงการอัดกาว นำปกที่เคลือบเสร็จเรียบร้อย มาทาบกับไส้ใน กะให้สันอยู่ตรงกลางมากที่สุด จะใช้วิธีผ้าลูบกับสันปก หรือวัดแล้วใช้คลิปกรีดเบาๆ ก็แล้วแต่ถนัด เมื่อได้ขนาดสันที่ปกจะทาบลงไปอย่างสวยงามแล้ว ก็จัดการทากาว กาวที่ใช้ ที่ร้านใช้กาวลาเท็กซ์ชนิดเดียวกันกับที่ใช้ปูปาเก้ หาซื้อได้จากร้านอุปกรณ์ก่อสร้าง เพราะเหนียวและแข็งแรง ไม่เหมือนกาวลาเท็กซ์ผสมน้ำตามร้านขายเครื่องเขียนทั่วไป เพราะหากน้ำมากเกินไป จะแห้งช้า ยิ่งเป็นปกที่ใช้ Ink Jet ปรินท์ ยิ่งเสี่ยงต่อการที่น้ำจะซึมขึ้นมาทำให้สันปกเลอะเทอะ

การทากาวจะเริ่มจากทาบริเวณใส้แม็ก เพราะเป็นจุดที่เสี่ยงต่อการหลุดมากที่สุด ทาบริเวณขอบสันประมาณ 1 ซม. แล้วก็นำปกเข้ามาทาบ ใช้ผ้าลูบให้เรียบ ต่อจากนั้นพลิกกลับมา ถ้ากาวไม่ดีมันจะหลุดก็เวลานี้เอง เพราะไม่แห้ง และน้ำซึมเข้าไปบริเวณที่เย็บแม็ก กระดาษขาวที่รองอยู่ก็จะยุ่ย พลิกกลับมาเสร็จก็ทากาวบริเวณสันให้ทั่ว ตรงหัวท้ายถ้าพอเปิดได้ ก็ใช้มือกรีดเหมือนกรีดไพ่ ใช้พู่กันอัดกาวเข้าไปให้หมด โดยเฉพาะ 2 – 3 แผ่นสุดท้าย เสร็จแล้วใช้ผ้าลูบจากสันขึ้นมาให้เรียบ แล้วค่อยลูบบริเวณสันด้านหลัง และด้านปกหลังในที่สุด

เสร็จเสียที นำไปเจียนทั้ง 3 ด้านที่เหลือให้เรียบร้อย เก็บรายละเอียด ใช้คลิปและไม้บรรทัด บรรจงรูดกรีดสันปก ห่างจากสันประมาณ 1 ซม. หรือแล้วแต่สวยงาม ใช้ไม้บรรทัดกดสันที่ทากาวแล้วพลิกเปิดสักสองสามหน้า ก็ใช้ได้ นอกจากจะเพื่อความสวยงามแล้ว ยังทำให้งานอัดกาวใช้งานได้คงทน เพราะถ้าจะหลุดหรือฉีก ก็สองสามแผ่นแรก และสองสามแผ่นหลังเป็นต้นเหตุ เพียงแค่นี้ก็เป็นอันเสร็จพิธี ส่งงานให้ลูกค้าได้เลย ถ้าจะให้ชัวร์ก็กระซิบลูกค้าด้วยว่า กลับไปถึงบ้านค่อยเปิดอ่าน เพราะกาวลาเท็กซ์จะแห้งจริงชนิดที่ปาเก้ยังไม่หลุด หลังจากทากาวประมาณ 2 ชั่วโมง ถ้าจะรีบอ่านสอบก็อ่านหน้ากลางๆ ก่อนไม่มีปัญหาอะไร

1 ความคิดเห็น:

  1. กัลยาก๊อปปี้แอนด์เซอร์วิส19 ธันวาคม 2555 เวลา 19:01

    ที่แท้ก็ใช้กาวติดไม้ปาเก้นี่เอง..

    ตอบลบ