ปุ่มกดถ่าย IR600 ติดบ้าง ไม่ติดบ้าง ... พ่วงสวิทซ์ IR600 ... ย้ายมากดเล่มกันให้มันส์ไปเลย

ทั้งกด ทั้งคลึง ทั้งนวด ... บางอารมณ์ก็แทบอยากจะตบให้มันพังกันไปข้าง สำหรับปุ่มกด Canon IR600 ... ยิ่งเวลากดเล่มใหญ่ๆ งานเร่งๆ วางต้นฉบับให้ตรง บรรจงกดให้แนบกระจกอย่างดี ... แต่พอเอื้อมมือมากด ดันไม่ติด กดแล้วกดอีก จนอีกมือที่กดต้นฉบับอยู่แทบจะอ่อนแรง ... เสียแรง เสียเวลา เสียอารมณ์ ... จะถอดมาซ่อมมาเปลี่ยนปุ่ม ก็แสนจะลำบากใจ เพราะกรอบพลาสติก Control panel ที่ยึดแผงอยู่ ก็กรอบแสนกรอบ งัดแผงออกมาแต่ละรอบ น็อตยึดแผงทั้งหลายที่เป็นเกลียวปล่อย ก็ทะเลาะกับพลาสติกกรอบๆ พากันหลุดลุ่ย จนหลังๆ สารพัดอัดกาวเข้าเยียวยา ปะผุกันจนกลายเป็นพื้นที่ต้องห้ามแกะน็อตไปโดยปริยาย ..

อีกนัยยะหนึ่ง หลังจากใช้งานกันมายาวนาน ... อาจเพิ่งรู้ตัวว่า วิศวกรผู้ออกแบบตำแหน่งปุ่มกด วางตำแหน่งปุ่มกดให้ไม่ถูกที่ถูกทาง อยากจะย้ายตำแหน่งให้กดเล่มได้อย่างเมามันส์เมามือ ... บ้างก็อยากเอามาใช้เท้าเหยียบแทน ก็ได้ยินว่าเค้ามีชุดพ่วงสวิทซ์แบบเหยียบจักรจำหน่าย ... ก็แล้วแต่จะออกแบบเพื่อความเหมาะสมในการใช้งาน ตามความถนัดของแต่ละบุคคล ... เพียงหาซื้อสวิทซ์แตะปล่อยมา ประกอบเข้ากับกล่องสวิทซ์ตามชอบ โยงสายไฟธรรมดา ยาวสั้นตามต้องการ ... แล้วจัดการพ่วงเข้าไป



หลังจากนั่งคุยกับนายช่างสามารถเรื่องปุ่มกดที่ไม่ค่อยจะติด ... นายช่างก็เลยทำสวิทซ์พ่วงมาให้ โดยยัดขาลงไปกับกล่อง Moisturizer หรือเรียกกันง่ายๆ กล่องครีมนับแบ็งค์ ... โดยแถมมาให้ 3 ปุ่มเลย กดอันใดอันหนึ่ง หรือพร้อมกัน หรือกดปุ่มเก่าบนเครื่องก็ได้ ถ้ามันพังอันหนึ่ง ก็ยังเหลืออีกตั้งสองอัน จะได้ไม่ต้องถอดเข้าถอดออกบ่อย ... สายที่โยงมาจากสวิทซ์ บวก-ลบ 2 เส้น มีปลอกขาวๆ เดาเอาว่าเป็นปลอกเทอร์มิสเตอร์ที่เสียแล้ว ... พร้อมทั้งจิ้มมิเตอร์จากแผงเก่า ตัดสายตัวอย่างมาให้ดูเรียบร้อยว่าต้องต่อสายใดบ้าง

เมื่อได้ชุดคิดส์จากนายช่างใจดีมาแล้ว ก็เริ่มกันเลย เปิดฝาหน้าถอดพลาสติกที่ปิดๆ ใต้แผงหน้าจออยู่ออกให้หมด ... ถ้าว่างก็แกะฟิลเตอร์ที่กรองอากาศจากพัดลมตัวเล็กตัวน้อย เอาออกไปล้างทำความสะอาดซะ เพราะไหนๆ ก็ได้ถอดออกมาแล้ว ... คราวนี้มองหาน็อตยึดแผงหน้าจอ จะมีทั้งหมด 4 ตัว จากซ้าย หลบอยู่ข้างๆ กล่องเลขมิเตอร์ ทั้งสองด้าน 2 ตัว ... ไล่มาด้านขวา อีก 2 ตัวจะอยู่ใกล้กับช่องเสียบสายพาราเรล ทั้งสองด้าน ... ต่อจากนั้น ลุกขึ้นยืนแก้เมื่อย ถอดน็อตยึดแผ่นเหล็กเล็กๆ 2 ตัวด้านบน ใกล้กระจกวางต้นฉบับ ตรงตำแหน่งที่เวลาเราใช้หัวฟีด แม่เหล็กหัวฟีดจะปิดลงมาดูดแผ่นเหล็กเล็กๆ 2 ตัวนี้ ..

เก็บน็อตได้หมดแล้ว เอามือผลักๆ หน้าจอทั้งยวงก็จะขยับโยกได้ ... ก้มๆ เงยๆ มองดูจากด้านใต้ ที่แผงจะมีสายไฟยึดอยู่ 3 จุดหลักๆ ค่อยๆ ถอดออก ... คราวนี้หน้าจอทั้งจอก็จะหลุดออกมาให้ยลโฉม ... เอาวางไว้นิ่งๆ ไม่ต้องพยายามไปแกะน็อตตัวเล็กตัวน้อยทั้งหลายที่ยึดแผงออก เพราะมันเสี่ยงต่อการที่ถอดเข้าถอดออกแล้วเบ้าพลาสติกมันจะแตก เนื่องจากเป็นน็อตเกลียวปล่อยที่ยึดกับเบ้าพลาสติก ยิ่งหน้าจอเครื่องไหนที่ซ่อมมาบ่อยๆ อาจเห็นรอยปืนกาว หรือกาวอีพ็อกซี่พอกเสริมขามาให้เห็นประปราย

จากในภาพจะเห็นว่า แผงหน้าจอถูกจับหงายขึ้น สังเกตจากมุมซ้ายบนคือรูพลาสติกของน็อตยึดแผ่นแม่เหล็ก คราวนี้มองหาแถบสายไฟสีม่วง จะมีอยู่ทั้งหมด 11 เส้น ซึ่งมีอยู่แถบเดียว ต่อเชื่อมสายไฟจากแผงปุ่มกดด้านในออกมายังแผงเล็กๆ แผ่นนอกสุด ซึ่งเราจะไม่รื้อเข้าไปเชื่อมจากแผงข้างใน จัดการถอดสายไฟจากแผงนอกสุดออกมาหงายดังในภาพ สายที่เราจะเชื่อมเพื่อโยงสวิทซ์ คือสายเส้นที่ 1 และ เส้นที่ 9 นับจากอีกด้านมาเส้นที่ 9 คือเส้นที่ 3 จากขวา ...

ถ้ามือนิ่งพอก็ปอกสายแล้วพัน ถ้าขี้เกียจก็ตัดแล้วต่อเชื่อมเข้าไป ซึ่งผมเลือกกรณีหลัง เพราะสายมันเล็กมาก เสร็จแล้วก็ใช้เทปพันสายไฟพันให้เรียบร้อย จัดการโยงสายออกมาด้านฝาปิดแท็งค์หมึก จะพอมีพื้นที่เหลือเล็กน้อย ... เสร็จแล้วก็ประกอบกลับให้เข้าที่ อย่าลืมเสียบสายทั้งหลายให้เรียบร้อย สายเล็กๆ บนช่องเสียบพาราเรลด้วยนะ เวลาถอดฝาครอบพลาสติกที่มีฟิลเตอร์พัดลม ต้องถอดสายนี้ด้วย แต่เวลาประกอบใส่เข้าไปมักลืมเสียบสายนี้กัน ...

เพียงแค่นี้ ก็มีสวิทซ์โยงเชื่อมปุ่มกดออกมา อยากได้กี่ปุ่มก็โยงกันเข้าไป .. เพราะแต่ละปุ่ม รวมทั้งปุ่มเก่าปุ่มเดิมบนเครื่อง ก็ยังใช้งานได้อยู่เป็นปกติ ... หากศูนย์ถ่ายเอกสารใด โยงสายออกมาแล้วออกแบบพัฒนาให้การใช้งานง่ายดายและสะดวก หรือสวยงามขึ้นกว่านี้ ไม่ว่ารูปแบบกล่องสวิทซ์หรือตำแหน่งกด ... ก็รบกวนชี้นำด้วย เผื่อจะได้ไปทำใช้บ้าง ... ขอบคุณล่วงหน้าครับ

1 ความคิดเห็น: